วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3



บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3  วันพฤหัสบดี ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558  เวลา 13:30 - 17:30 น.

LET ' S..GO  


เข้าชั้นเรียนแน่นอนว่าจะต้องปั้มใบเก็บคะแนนในการเข้าเรียน มีการเล่นเกมก่อนจะเรียนด้วยนะเพื่อจะกระตุ้นนักศึกษาให้มีการตื่นตัว เหตุเพราะนักศึกษาแต่ละคนอาการล่อแล้มาก  อุ๊ป! o(0*0)o
แล้วจึงเริ่มเรียน เริ่มเรียนได้ซักพักก็ต้องกระตุ้นด้วยเกมอีกรอบ  แต่ชอบนะเพราะสนุกดี ทำให้ไม่ง่วงด้วย เอิ๊กๆๆ ร่ายยาวมาพอสมควรเข้าเนื้อหากันดีกว่า เนื้อหามีอยู่ว่า...

.
.
.
.

เนื้อหาในวันนี้

แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาษาของเด็กปฐมวัย (เสียงแบบเอคโค่) 
แนวคิดจะแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มแนวคิดด้วยกัน คือ
1. แนวคิดของกลุ่มพฤติกรรมนิยม ก็จะมี 


ทฤษฎีการเรียนรู้ของ Skinner >>  ซึ่งเชื่อว่าสิ่งแวดล้มมีอิทธิพลต่อการพัฒนาการทางภาษา จะให้ความสำคัญกับสิ่งเร้าและการตอบสนอง Ex การทดลอง = นายสกินเนอร์เนี้ยได้ทดลองกับหนูทดลองโดยการนำหนูไปขังไว้ในกล่องโดยในกล่องจะมีปุ่มกดให้อาหารและน้ำ เขาขังหนูไว้เป็นอาทิตย์จนกระทั้งวันหนั่งหนูน้อยบังเอิญไปชนกับปุ่มในกล่องทำให้อาหารตกลงมาในครั้งต่อไปหนูก็จะกดปุ่มเพื่อได้กินอาหาร 

ทฤษฎีของ John B. Watson >> เป็นการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก ให้เด็กเกิดพฤติกรรมโดยผู้ใหญ่เป็นผู้วางเงื่อนไข สามารถที่จะสั่งให้เด็กทำอะไรก็ได้ตามต้องการ Ex การทดลอง = นายวัตสันได้ทำการทดลองกับลูกของตัวเองโดยการขังลูกไว้กับกระต่าย และเมื่อเด็กจะไปจับกระต่ายเขาจะเคาะค้อนทำให้เกิดเสียงดังทำให้เด็กตกใจเข้าทำแบบนี้ซ้ำๆในช่วงเวลาหนึ่งผลที่ได้คือลูกของเขานั้นกลัวกระต่ายไม่เข้าใกล้กระตายอีกเลย 
โดยสรุป
กลุ่มพฤติกรรมนิยมเชื่อว่า  >> ภาษาเป็นกระบวนการภายในมนุษย์ การเรียนภาษเป็นผลจากการปรับพฤติกรรมโดยลิ่มแวดล้อมเด็กจะเลียนแบบ เมื่อได้รับแรงเสริมเด็กจะเลียนแบบมากขึ้น

2. แนวคิดกลุ่มพัฒนาการทางสติปัญญา 

ทฤษฎีของ Vygotsky  และ  PiaGet  มีความเหมือนและคล้ายคลึงกันมาก
แต่ต่างกันตรงที่ว่า เพียเจต์ดังกว่า เพราะไวกอทสกี้เกิดที่รัสเซียทำให้ทฤษฎีของเขาถูกปิดกั้น แต่ของเพียเจต์ได้รับการสนับสนุน สรุปทฤษฎีของกลุ่มพัฒนาการทางสติปัญญา คือ
เด็กเกิดการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม สังคม คนรอบข้าง มีผลต่อการเรียนรู้ภาษาและสติปัญญาของเด็ก

3. แนวคิดกลุ่มที่เชื่อเรื่องความพร้อมทางร่างกาย

Arnold Gesell  
เน้นความพร้อมทางด้านร่างกายในการใช้ภาษา ความพร้อมในวุฒิภาวะ ความพร้อมทางร่างกายของเด็กนั้นมีไม่เท่ากัน ง่ายๆคือ ถ้าเด็กโตมาเด็กจะพูดได้เอง เคอะ !

4. แนวคิดกลุ่มที่เชื่อว่าภาษาติดตัวเด็กมาแต่เกิด 

ก็จะมีนัก ทฤษฎี
Noam Chomsky  >> ภาษาเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในของมนุษย์ การเรียนรูขึ้นอยู่ที่วุฒิภาวะ โดยศักยภาพในการเรียนรู้ภาษานั้นติดตัวมาแต่เกิด เรียกว่า LAD  คือ
Language = ภาษา  /  Acquisition = การได้มา /  Device = อุปกรณ์ กลไก
O.Hobart Mowrer >> ทฤษฎีความพึงพอใจ (เสียงหวานๆพูดเพราะๆ)
จิตวิตยาการเรียนรู้ 
๑. ความพร้อม = วัย และประสบการณ์ของเด็ก
๒. การจำ = การเห็นบ่อย การทบทวน 
๓. ความแตกต่างระหว่างบุคคล = อิทธิพลจากพัธุกรรม และ สิ่งแวดล้อม
๔. การมให้แรงเสริม = แรงเสริมทางบวก และ ลบ


ทบทวนเพลงของสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนขึ้นเพลงใหม่อีก 5 เพลง อาๆ โอๆ โด้ๆ เร  อะแฮ้ม! วอร์มเสียง
เรามีตาไว้ดู ล้าๆๆ 

เนื้อเพลงใหม่ที่มีผู้ร้องเพี้ยน เอิ่ม บางที่ก็เพี้ยนนิดหน่อยละกาน แหะๆ  o(>0^)o
.
.
.
เก็บตก
มีเกมที่ทั้งขำและฮามากๆๆๆเกมนึง เกมมีอยู่ว่า อาจารย์ได้ในประโยคมา ตัวอย่างเช่น
ยายกินลำไน้ำลายยายไหลย้อย อันนี้แค่เบาแต่จะมีอันที่่เด็ดกว่านี้อีกคือ
หีบมากมายหลายหีบยกหีบหนี
หีบมากมีหนีหีบหนีบหนีหาย
เห็นหนีหีบหนีบหนีกันมากมาย
เห็นหีบหายหลายหีบหนีบหนีเอย
ลองพูดเร็วๆซิ๊ เอ๊ะ! เมื่อกี๊ พูดว่าอะไรนะได้ยินไม่ชัดเลย
>/////<
เกมนี้มีชื่อว่าเกมลิ้นพันกันในประเทศอเมริกาได้ให้เด็กฝึกเล่นเกมนี้ เปลี่ยนจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ
เกมนี้จะช่วยฝึกให้เด็กพูดได้อย่างฉะฉานเกิดความมั่นใจในตัวเองเป็นพัฒนาทักษะทางด้านภาษาให้แก่เด็ก


กิจกรรมต่อมาป็นการแต่งนิทาน
โดยอาจารย์ได้นำผลงานตัวอย่างมาให้ดู 


น่ารักฟรุ๊งฟริ๊ง  ><

ได้มีการแสดงบทบาทสมมุติโดยการตั้งกระดานเล็กๆ เละให้เพื่อนที่อยากทดลองเป็นคุณครูและนักเรียนได้ออกไปทำกิจกรรม เราได้แต่งนิทานเรื่องผลไม้หลากสี 


ครูขาหนูชอบทานผลไม้มากๆๆ (เติม ก 50 ตัว) >0<


เมื่อแต่งนิทานเสร็จเรียบร้องอาจารก็ได้ให้ทำการแบ่งกลุ่มเพื่อทำหนังสือนิทานโดยให้แต่ละกลุ่มรับผิดชอบในการวาดรูปกลุ่มละหน้า กลุ่มเค้ารูปตอนจบแหละ ^^
สวยชิมิหล้าาาา >////<


เมื่อทุกกลุ่มเสร็จแล้วก็ส่งตัวแทนออกไปเล่าสิ่งที่ตนเองทำว่าในหน้านั้นมีอะไรบ้าง อารมแบบอาจารย์เป็นคุณครูคอยถามเด็กๆ อะน่าร๊ากกก o(^3^)o


END 

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้

กิจกรรมการแต่งนิทาน ได้รู้หลักในการเรียนอุปกรณ์และตัวเองให้พร้อม การที่แต่งนิททานเราต้องดูว่าในสัปดาห์นั้นเราจัดการเรียนอะไร หรืออาจจะเป็นเรื่องที่เด็กสนมจก็ได้ ในระหว่างที่เขียนนั้นอย่ามัวแต่เขียนนะต้องคุยและถามเด็กไปด้วย อารมณ์ประมาณมือขยับปากก็ขยับพร้อมมือ เวลานั่งเขียนให้นั่งด้านที่ถนัด หลักการเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้ในอนาคต

การประเมินผล

ประเมินตนเอง

มีความสุขในการร่วมทำกิจกรรม เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอน ไม่เบื่อไม่ง่วงไม่นอน OK เรย

ประเมินเพื่อน 

เพื่อนๆน่ารักสนุก ทำให้ห้องเรียนไม่เครียด ตอนเล่นเกมนิอย่างฮาเลย โฮ๊ะๆๆ o(^()^)o

ประเมินอาจารย์

อาจารย์น่ารัก มีการสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างนะค่ะ คืออาจารทำน่ารักแต่หนูไม่สามารถทำแบบอาจารย์ได้ฮะ เนื้อหาอัดแน่ เต็มไปด้วยความรู้ ขอบคุณค่ะ กราบ o(UoU)o

จบการบันทึกครั้งที่ 3
บ๊ะบุ่ย














วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่  2

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 2 วันพฤหัสบดี ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 
เริ่มชั้นเรียนโดยการปั้มใบเก็บคะแนนเข้าเรียน หลังจากนั้นอาจารย์ได้ให้นักษึกษาเพิ่มลิ้งค์บล็อกของนักศึกษาในบล็อกของอาจารย์  และอาจารย์ก็ได้ตรวจสอบบล็อกของนักศึกษาทุกคนว่าเรียบร้อยตามหัวขอที่กำหนดหรือไม่ นักศึกษาที่ทำได้เรียนร้อยจะได้รางวัลเด็กดี 2 ดวง
 (ไม่อยากจะอวดได้มา 2 ดวงแหละรู้ยัง)

ต่อมา
อาจารย์ได้แจกกระดาษให้นักศึกษาเพื่อทำป้ายชื่อ


ท๊าดา...ป้ายชื่อกรุบกริบของดิฉันเอง   o(0.0)o


เนื้อหาของวันนี้

ภาษา >> การสื่อความหมาย เป็นเครื่องมือในการแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก
ความสำคัญ >> เครื่องมือการเรียนรู้  เครื่องมือการติดต่อสื่อสาร เครื่องมือสร้างความจรรโลงใจ
ทักษะทางภาษา >> ฟัง พูด อ่าน เขียน
องค์ประกอบภาษา >> 1. Phonology (เสียง) 2. Semantic (คำศัพท์)  3. Syntax (ไวยากรณ์)
พัฒนาการทางภาษาของเด็หปฐมวัย >> 1. ระยะเปะปะ (แรกเกิด-6 เดือน) 
 2. ระยะแยกแยะ (6 เดือน-1ปี) 3. ระยะเลียบแบบ (1ปี - 2ปี) 4. ระยะขยาย (2- 4ปี)
 5. ระยะโครงสร้าง(4-5ปี)  6. ระยะตอบสนอง (5-6ปี) 7. ระยะสร้างสรรค์ (6ปีขึ้นไป) 
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษา >> 1. วุฒิภาวะ 2. สิ่งแวดล้อม
 3. การเข้าใจความหมาย 4. การจักชั้นเรียน 5. การมีส่วนร่วม 


การยกตัวอย่างการใช้ภาษา (เห็นเป็นรูปอะไรกันเอ่ย ?)
ตั้งใจเรียนสุดๆ จริงจริ๊ง!  o(-0-)o
 
ทบทวนเพลงเก่าและสอนเพลงใหม่
โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด๊ !    o(=0=)o

เนื้อเพลงกรุบกริบ 6 เพลง


ขีดเขียนวาดภาพของสุดรักของตนเอง
(สีที่ให้เป็นปฐมวัยต้องสีเทียนเท่านั้นนะจ๊ะ)


หมาน้อยสุดรักของน้องเดีย อ.2 (กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนะเออ )  o(^0^)o


คัดเลือกเด็กน้อยให้ออกไปอธิบายเกี่ยวกับของสุดรัก

จบคาบเรียน

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้


การเลือกสิ่งของที่จะนำไปใช้กับเด็ก ยกตัวอย่าง สีก็ต้องเป็นสีเทียนแท่งใหญ่พอเหมาะกับมือของเด็ก ห้ามใช้สีไม้เพราะมีความอันตรายเด็กอาจจะใช่ได้อย่างไม่ระวังจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ควรให้เด็กใช้ดินสอในการวาดรูปเพราะจะจำกัดจินตนาการของเด็กเพราะเด็กจะวาดและลบ การให้ใช้สีเทียนเขียนไปเลยรูปที่เด็กวาดจะออกจากความคิดแรกของเด็ก และเราไม่ควรไปคาดหวังกับผลงานของเด็ก 

การประเมินผล


ประเมินตนเอง

การเรียนในวันนี้เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอน แต่ลืมนำใบงานความรู้ที่ใช่เรียนในวันนี้มา
ขอโทษค่ะ  o(T0T)o

ประเมินเพื่อน 
เพื่อนน่ารักให้ความร่วมมือในการเรียนการตอบคำถามเป็นอย่างดีทำให้ห้องเรียนมีความสนุกสนานมาก

ประเมินอาจารย์
อาจารย์น่ากยิ้มแย้มตลอดเวลา แต่มีบางช่วงอาจจะกัดฟันพูดบ้าง (อุ๊ป !)
อาจารย์น่ารักสอนสนุกเข้าใจ ร่วมทำกิจกรรมไปพร้อมๆกับนักศึกษาทำให้ในห้องเรียนมีความสนุกครื้นเครงไม่น่าเบื่อ และ น่าตื่นเต้น


จบการบัททึก
See You   o(^3^)o

   






วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 1

   



บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 1 ในวันพฤหัสบดี ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13:30 -17:30  ได้มีการเรียนการสอนวิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย เริ่มต้นโดยการพบกับอาจารย์ผู้สอนในรายวิชา

อาจารย์นั้น ได้ให้คำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อจะทดสอบความรู้ว่า นักศึกษามีความรู้มากน้อยแค่ไหนเพื่อที่อาจารย์นั้นจะได้เริ่มต้นและวางแผนการสอนได้อย่างถูกต้อง
.
.
ต่อมาอาจารย์นั้นได้สอนการสร้างบล็อกเพื่อเป็นแฟ้มในการสะสมผลงานหรือบันทึกกิจกรรมต่างๆที่ได้ลงมีทำในแต่ละครั้งที่ได้เข้าเรียน






ตัวอย่างแบบพยัญชนะหัวกลมตัวเหลี่ยมและกระดาษสำหรับการคัด

 

ขณะกำลังคัด (ตั้งใจมาก >///<)



ในที่สุด การคัดพยัญชนะคร้้งแรกก็สำเร็จ หัวเล็กๆตัวอวบอ้วนน่ารักที่สุด (รึเปล่า)
(>o<)



โด....เร.....มี....ฟา...ซอล..ลา...ที..โด.....!

วอร์มเสียงเล็กน้อย เพื่อจะร้องเพลง






เพลงสำหรับเด็กปฐมวัย 5 เพลงสำหรับวันนี้ 




ในท้ายชั่วโมงก่อนอาจารย์จะปล่อย อาจารย์ได้ให้ใบเช็คชื่อหรือใบเก็บคะแนนในการเข้าเรียนแต่ละครั้ง

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้

ในอนาคตเมื่อเราได้ไปเป็นครูปฐมวัย การคัดพยัญชนะไทยในแบบหัวกลมตัวเหลี่ยมนั้นจำเป็นมากในการใช้เขียนให้เด็กปฐมวัยได้ดู เพราะพยัญชนะไทยหัวกลมตัวเหลี่ยมนั้นมีหัวและการลากเส้นที่ชัดเจนทำให้เด็กสังเกตได้ง่าย 
เพลงเป็นอีกอย่างหนึ่งที่จำเป็นสำหรับเด็ก ดังนั้นการฝึกร้องเพลงนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากในการนำไปประกอบการสอนเด็กปฐมวัยในอนาคตได้

การประเมินผล

ประเมินผลตนเอง
การเขียนพยัญชนะไทยหัวกลมตัวเหลี่ยมวันนี้นั้น ทำให้รู้ว่ายังคงต้องฝึกอีกมาก เพราะหัวเล็กตัวอวบอ้วน โดยรวมแล้วก็พอใช้ได้ การร้องเพลงในวันนี้ถือว่าดีมาก ( >/////<)
เพราะเสียงไม่ได้แย่จังหวะลงตัวคีย์ก็ได้ ติดอยู่ตรงต้องไปจำเนื้อเพลงให้แม้นยำ >o<

ประเมินเพื่อน

เพื่อนๆน่ารักร้องเพลงเพราะคัดตัวอักษรสวย และที่สำคัญทุกคนทำให้ห้องเรียนสนุก ตั้งใจร่วมกิจกรรมในห้องเรียนเป็นอย่างดี

ประเมินอาจารย์ผู้สอน

อาจารย์น่ารักมาก (เติม ก 100 ตัว >/////<) สอนสนุก ร่วมทำกิจกรรมไปพร้อมนักเรียน คอยแนะนำในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และยังให้ข้อคิดปิดท้ายอีกด้วย    o(^3^)o


จบการบันทึก
See You   o(^3^)o